เที่ยวชมงานนิทรรศการ Startup ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

IMG_0514

สวัสดีครับ วันนี้เป็นวันที่ผมตั้งตารอตั้งแต่ได้ข่าวว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ครั้งแรกของไทยที่รวบรวมบริษัท startup มาจัดบูธประชันผลงานกัน จัดขึ้นวันที่ 28 เมษายน – 1 พฤษภาคม ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นั่ง MRT ขึ้นมาก็ถึงเลยครับ

ในช่วงต้น เนื่องจากว่าท่านนายกจะมาเปิดงานจึงอนุญาติให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องหรือ VIP เท่านั้นที่เข้างานได้ ผมก็เลยเดินไปฟังฮอลข้างๆ เป็นงานทัศนคติของเกาหลีต่องาน Startup ในเกาหลี เค้าจะเน้นทางด้านการสร้างสรรค์เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างงานต่างๆ ที่เรียกว่า Creative economy มีหน่วยงานสนับสนุนที่ชื่อว่า CCEI และมีศูนย์กระจายอยู่ทั่วประเทศ 18 แห่ง…ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลทางนโยบายของเกาหลีที่ระดับรัฐมองแบบมหภาคผมก็เลยไม่ค่อยเก็ตเท่าไหร่

Smart Home (ลาดกระบัง)

 

เป็นบูธที่เป็นตัวแทนสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังมาจัดบูธครับ โดยแบ่งโปรดักส์เป็นสองอย่างครับ อย่างแรกคือระบบ smart ที่ติดตั้งให้สามารถควบคุมการเปิดปิดไฟได้ผ่านอินเทอร์เน็ต อย่างที่สองคือ smart plug เป็นรางปลั้กสามตาที่สามารถควบคุมเปิดปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มาต่อกับปลั้กได้ โดยพื้นฐานแล้วนักศึกษากลุ่มนี้พัฒนาตัวโปรดักส์จาก NodeMCU และตั้ง MQTT Broker เองขอดีก็คือตอนที่ทดสอบให้เราดู การสั่งงานตอบสนองไวมากครับ

S.O.S จาก มหาลัยศรีปทุมคณะดิจิตอลมีเดีย

เป็นบูธที่โชว์ผลงานของนักศึกษาที่พัฒนาแอพลิเคชันมือถือที่ช่วยเหลือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนและต้องการการช่วยเหลือ ไอเดียก็คือ เมื่อประสบอุบัติเหตุสามารถกดเรียกใช้แอพและดูว่ามีหน่วยกู้ภัยหรือโรงพยาบาลใกล้ที่สุดอยู่ตรงไหนมีข้อมูลต่างๆในการติดต่อ ตอนนี้ยังเป็นแค่ไอเดียที่หวังจะพัฒนาให้สามารถใช้ได้จริง ซึ่งผมคิดว่ามันจะมีประโยชน์ในนาทีฉุกเฉินแน่นอนครับ

igetDorm จากลาดกระบัง

เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยในการค้นหาหอพักให้นักศึกษา นักศึกษาที่อยู่ต่างจังหวัดไม่จำเป็นจะต้องขับรถมาไกลๆและต้องขับวนหาหอพักอีกต่อไป(ประสบการณ์ตรงของผมด้วย) igetDorm จะช่วยค้นหาและแนะนำหอพักให้ มีระบบการให้คะแนน การรีวิวเช่น หอพักตรงนี้อยู่ใกล้แลปวิศวะนะ ถ้ามาพักหอพักนี้ก็จะสะดวกในการเดินทาง หรือว่า หอพักนี้อยู่ใกล้แหล่งที่กินนะ ตอนกลางคืนลงมาหาอะไรกินสะดวกมากเลย เป็นต้น

Gchat , Gnews

 

หลายๆคนอาจจะรู้จากข่าวเมื่อไม่นานมานี้ที่ทางรัฐบาลออกแอพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับการ chat ภายในหน่วยงานที่ชื่อว่า G-chat  สิ่งแรกที่เราต้องถามก็คือความปลอดภัยของข้อมูลที่เรา chat ในหน่วยงาน พี่ที่บูธอธิบายให้ฟังว่าในการสื่อสารเนี่ย เราเข้ารหัส SSL 256 เอาไว้ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ โดยหลักๆข้อดีของแอพนี้ก็คือ
1. ไม่จำกัดจำนวนคนที่เข้ามา join ในกลุ่มหน่วยงาน เมื่อเทียบ line ที่จำกัด 100 คน
2. สามารถดูได้ว่าใครกด Read ไปแล้ว (เหมาะสำหรับหัวหน้างาน T ^ T )
3. รองรับความเป็นทางการ การที่จะสามารถใช้แอพนี้ได้ต้องให้หน่วยงานมาลงทะเบียนก่อนจึงจะใช้ได้
4. ส่วนใหญ่เน้นพัฒนาให้เค้ากับวัฒนธรรมของภายในองค์กรณ์ภาครัฐมากกว่าเป็นแอพแชตทั่วไป
อีกแอพคือ G new ครับ ตามชื่อเลยก็คือเป็นแอพข่าวสารของทางภาครัฐครับที่รวบรวมข่าวสารต่างๆตามหน่วยงานต่างๆ (เยอะมาก) รวมไว้ที่แอพเดียวเลยครับ

NEBULAZ

เป็น Solution สำหรับทำป้ายโฆษณา อันนี้น่าสนใจมากเพราะเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ป้ายโฆณาเลย ปัจจุบันทางบริษัทบอกว่ามีคนใช้ป้ายโฆษณาของเค้ากว่า 500 จุด ซึ่งนับว่าเยอะมากเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่ก่อตั้งเมื่อสี่ปีที่แล้ว

VIABUS

 

เป็นแอพติดตามรถเมย์ โดยสามารถ TAG รถเมย์โดยการติดตั้งกล่อง GPS หรือว่า ให้คนขับรถเมย์ใช้แอพตัวนี้ในการ TAG ในปัจจุบันอันนี้ถือว่าเป็นปัญหาสำหรับผมเหมือนกันที่เวลาต้องรอรถเมย์แล้วเราไม่รู้ว่ารถจะมาตอนไหน อยากไปซื้อหมูปิ้งกิน พอกลับมารถก็ออกไปแล้ว เจ้าแอพตัวนี้ก็จะช่วยเรา TAG ดูรถที่เราต้องการจะขึ้นได้เลย ปัจจุบันยังมีแค่ 4 สายเท่านั้น และทางกลุ่มน้องๆบอกว่าจะขยายให้ครอบคลุมรถเมย์ทุกสายให้ได้

Above creation

เป็นบริษัทใหญ่ที่มาโปรโมทผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่กำลังพัฒนา 3 อย่าง
1. กล้องติดรถเช็คความปลอดภัย
เป็นกล้องที่มอนิเตอร์คนขับโดยจับไปที่ใบหน้าของคนขับแล้ววิเคราห์ว่าตอนนี้คนขับของเรามีอาการสุ่มเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ เช่น ง่วงนอน , ไม่ได้มองทาง , ก้มหน้าก้มตาแชต เป็นต้น ตรงนี้ผมเดาว่าใช้วิธีวิเคราห์รูปจากดวงตาว่าอยู่ในตำแหน่งสุ่มเสี่ยงหรือไม่

2.BabyTag
เป็นผลิตภันณฑ์ Tag เด็กทารก สำหรับแก้ปัญหาการลักพาตัว หรือ เด็กหาย หลักการคือ มี Tag อยู่สองอันเมื่อ Tag อันนึงอยู่ห่างจากอีกอันมากกว่าที่กำหนด จะส่งเสียงเตือนออกมาและแจ้งเตือนไปยังผู้เกี่ยวข้องทันที

3.Hyproglycemia wristband
เป็นผลิตภัณฑ์สายรัดสำหรับการตรวจภาวะน้ำตาลในเลือด ใช้สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และแจ้งเตือนเมื่อมีภาวะน้ำตาลต่ำ พัฒนาโดยทีมงานแพทย์จากโรงพยาบาลราชวิถี

ENLiCIUM (interligent sensors smart societies)

เป็น Solution ในการประหยัดพลังงานแบบตรงไปตรงมา หลักการก็คือ จะมีเซนเซอร์วัดแสงจากตัวหลอดไฟ แล้ววิเคราะห์ว่าแสงในห้องมีความสว่างพอหรือไม่ ถ้าแสงจากภายนอกทำให้สว่างอยู่แล้วก็จะปิดไฟลง แต่ถ้าสว่างน้อยก็จะเปิดไฟ แต่เป็นการเปิดไฟแบบประหยัด ให้แค่เพียงพอกับความต้องการก็พอไม่จำเป็นต้องสว่างสูงสุด

Feeling WATT

เป็นอุปกรณ์วัดกระแสไฟฟ้าแล้วส่งค่าขึ้น Server ให้สามารถ moniter ได้เลยผ่าน internet ข้างในใช้เป็น nodeMCU ใช้วิธีการส่งค่าแบบ http request ครับ ตอนนี้ขายเป็นชุด ชุดเล็ก ที่ติดกับไฟ 1 เฟส ก็คือบ้านทั่วไป ราคา 3500บาท และ ชุดใหญ่ที่สามารถรองรับไฟ 6 เฟส จะราคา 6000 บาท และยังขายบอร์ดพัฒนาให้ได้ศึกษากันเป็นบอร์ดเปล่าๆ ราคาประมาณ 6000 บาท

IFST

เป็นบริษัทที่พัฒนาบอร์ด track ตำแหน่งด้วยดาวเทียม  และ รับทำโซลูชั่นด้วย จุดเด่นๆก็คือตัวบอร์ดนอกจากจะสามารถรับข้อมูลจาก gps แล้ว ยังสามารถรับข้อมูลจากดาวเทียมดวงอื่นๆได้ด้วยจึงทำให้มีความแม่นยำที่สูงมาก และเจ้าตัวบอร์ดนี้กินไฟเพียงประมาน 200mAH ตัวบอร์ดขายอยู่ที่ 3500 บาท สามารถโทรสั่งซื้อได้เลยครับ

Drivbot

เป็นบริษัทสตาทอัพทางสายฮาร์ดแวร์ที่ทุกคนที่ฝันอยากทำสตาทอัพสายฮาร์ดแวร์ต้องรู้จักแน่นอน บริษัทนี้พัฒนาตัวอ่านสุขภาพของรถ สามารถตรวจเช็คค่าสถานะต่างๆ เช่น อุณหภูมิความชื่อของเครื่องยนต์ ระบบไฟฟ้า ความจุของแบตตารี่รถยนต์เป็นต้น วิธีการใช้งานคือเสียบเข้าไปที่รถยนต์ แล้วเปิดแอพก็สามารถดูข้อมูลได้เลย โดยตัวเสียบจะเป็นการอ่านค่ามาตรฐานแบบ OBD2 แล้วอ่านออกมาส่งข้อมูลเข้าแอพผ่านบลูทูท ปัจจุบันขายอยู่ที่ราคา 3590 บาทต่อหนึ่งตัว

Evergrow

เป็น solution สำหรับการปลูกพืชแบบปิดในตู้คอนเทนเนอร์ ในตู้คอนเทนเนอร์มีระบบควบคุมสภาวะความเหมาะสมให้กับพืชนั้นๆ เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ก๊าซต่างๆ แทบจะครบวงจร เกษตรกรมีหน้าที่แค่เลือกว่าอยากปลูกต้นอะไรก็พอ ระบบจะ setup ค่าต่างๆให้อยู่ในระบบที่เหมาะสม และรอให้เกษตรกรมาเก็บผลผลิตก็พอ ปัจจุบันขายเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาดเล็กราคาประมาน 1.5 ล้านบาท ส่วนใหญ่ที่เป็นลูกค้าจะเป็นระดับใหญ่ๆ เช่น CP และตอนนี้กำลังขยายตลาดไปที่ลาว

Smart irrigation

เป็น solution สำหรับทำสมาทฟาร์ม ตัวระบบจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือกล่องที่วัดความชื้น วัดอุณภูมิของแต่ละจุดในไร่ของเรา แล้วส่งข้อมูลเข้า server เพื่อนำไป monitor ออกมาและสั่งงานเข้าอีกส่วนที่เป็นส่วนของการปั้มน้ำสำหรับนำมารดน้ำพืชผักในไร่ ตัวระบบแรกใช้ NodeMCU เชื่อมต่อกันแบบ mesh network ผ่าน wifi แล้วได้พลังงานจากเซลแสงอาทิตย์ที่ติดบนกล่องดังนั้นจึงไม่ต้องเดินสายไฟให้ทั่วทั้งไร่ เพราะแต่ละจุดสามารถอยู่ได้ด้วยแบตตารี่ที่ชาจน์ด้วยโซลาเซล ปัจจุบัน solution นี้นำมาใช้จริงกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้แล้ว และเตรียมขยายเข้าสู่ตลาดเกษตรกรต่อไป

SP smartplants

เป็นระบบตามชื่อเลยเลยครับก็คือมีกล่องตัวควบคุมวาวล์จ่ายน้ำสี่ช่อง และมีsensorวัดอุณหภูมิกับความชื้น ในตัวกล่องสามารถ monitor จาก Internet ได้เลย ข้างในใช้เป็นตัว Raspberrypi ในการควบคุมพอร์ทต่างๆ และทำเว็บเซิฟเวอร์ในตัวเลย

ในงานนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายครับที่ผมไม่ได้รีวิวไว้เพราะได้แค่เดินผ่านคนแน่นมากๆ แล้วก็เพลียด้วย เป็นงานที่สนุกและได้ความรู้จริงๆครับ ที่จริงมีกิจกรรมพิเศษให้เข้าร่วม workshop ด้วยแต่ผมแยกร่างไม่เป็นเลยไม่สามารถรีวิวได้ครบทุกบูธ สุดท้ายแล้วอยากให้ทุกคนได้ไปสัมผัสงานจริงๆครับ จะได้แรงบันดาลใจกลับมามหาศาลเลยหละ วันพรุ่งนี้(1 พฤษภาคม) ยังมีอีกวันนึงนะครับ แล้วก็มีงาน Maker holic ที่จะมาจัดเพิ่มเติมพรุ่งนี้ด้วย ใครสายฮาร์ดแวร์พลาดไม่ได้ครับ

 

Facebooktwittergoogle_plusredditpinterestlinkedinmail