สวัสดีครับทุกท่านในวันนี้มีโอกาสได้นั่งชิวๆก็เลยคิดว่าอยากมาอัพเดตเรื่องราวเทคโนโลยีที่เป็นกระแสตั้งแต่ปลายปี 2016 และจะปฎิวัติวงการ Internet of things ในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน บางคนอาจจะรู้จักมาบ้างแล้ว แต่ผมขอเกริ่นนำสักนิดก่อนนะครับว่าทำไมผมถึงกล้าพูดว่ามันจะมาปฎิวัติวงการนี้
ขอท้าวความไปเมื่อสมัยที่ บอร์ด Arduino เป็นที่รู้จักกันสักพักแล้ว แต่การเชื่อมต่อยังเป็นอะไรที่เข้าถึงยากซึ่งตอนนั้นการส่งแบบไร้สายก็จะมี คลื่นวิทยุ บลูทูท zigbee GSM เป็นต้น การจะทำงานสั่งงานไร้สายเป็นเรื่องที่แพงมากสำหรับผมในช่วงที่เป็นนักศึกษา (บอร์ด Arduino 700 + zigbee 1000 และ อื่นๆ) ที่พอราคาถูกน่าเล่นก็มีแค่ RF แต่เพราะข้อจำกัดทางด้านการทะลุทะลวงจึงใช้งานได้เฉพาะบางงานเท่านั้น
(รูปภาพจากเว็บ https://www.arduino.cc/en/Guide/ArduinoWirelessShieldS2)
ในสมัยถัดมาเป็นยุคที่เข้าใกล้คำว่า Internet of things ขึ้นมาอีกก้าว นั่นก็คือมีบริษัทที่สามารถผลิตชิพที่ใส่คอนโทลเลอร์และรวมที่รับไวไฟไว้ในชิพเดียวกัน ชูจุดเด่นที่ขนาดเล็กราคาไม่แพง(ในสมัยนั้น)และจบที่บอร์ดเดียว นั้นคือบอร์ดของ spark core ครับ ในตอนนั้นราคาของมันเพียง 1500 บาทโดยประมาน ตอนนั้นผมตื่นเต้นมาก หรือว่านี่คือสัญญาณของยุค Internet of things จนในที่สุดผมก็ได้รับของ และเริ่มสั่งงานกับมันแบบง่ายๆ ปรากฏว่าเวิร์คเลยทีเดียว
(รูปภาพจากเว็บ https://www.kickstarter.com/projects/sparkdevices/spark-core-wi-fi-for-everything-arduino-compatible)
ยุคของ ESP
เป็นชิพไวไฟเหมือนกับของ spark core แต่ว่าราคาหลักร้อยครับ สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่ 200 – 500 บาท ผมทึ่งกับมันมาก และมีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดสามารถเขียนโปรแกรมง่ายเหมือนอดุยโน่ และในเวลาเพียง 6 เดือน กระแสของตัวชิพนี้ก็ฉุดไม่อยู่มี Internet of things platfrom เกิดขึ้นมากมาย มีโปรเจคมากมายเกิดขึ้นบ้างก็ลง kickstarter บ้างก็ลง Indiegogo แล้วเมื่อทุกอย่างเป็นใจ (เทคโนโลยี dev ง่าย และมีราคาถูก) ตอนนี้เรียกได้ว่ายุคของ Internet of things ได้เปิดประตูไว้รอแล้ว เหลือแค่ว่าใครจะเข้าไปเล่นเท่านั้นเอง
(รูปภาพจาก http://k12.camdemy.com/course/1357/intro)
แต่ !!!!
ไม่ใช่ว่า ESP จะดีทุกอย่างนะครับ ในช่วงนั้นเป็นชิพรุ่น esp8266 ที่ถ้าพอเราได้ใช้เราได้เล่นเราจะพบกับปัญหาบางประการในยุคนั้นเช่นว่าการเชื่อมต่อ I/O มีน้อยเกินไป ช่องต่อ Analog input มีแค่ 1 ช่อง เป็นต้น หลังจากทุกคนลองเล่นได้ไม่กี่เดือนก็มีข่าวปรับปรุงพัฒนาบอร์ดรุ่นใหม่มานั่นคือ
ยุคของ ESP32
เจ้าบอร์ด ESP32 แก้จุดด้อยของ esp8266 จนหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ I/O และ Analog input ปรับสเปคให้แรงวัวตายควายล้ม และเรื่องเซอไพรซ์ก็คือ ใส่ Bluetooth Low Energy เข้ามาด้วยโดยที่ผมช้อคที่สุดคือ ราคาของมันขึ้นนิดเดียวเอง โดยราคาชิพอยู่ที่ประมาน 200 – 300 บาท และบอร์ดสำเร็จรูป ราคาประมาน 600 – 700 บาท และในอนาคตอาจจะมีราคาที่ต่ำกว่านี้ออกมาอีกด้วย
ยุค ESP32 ในปี 2017
ความจริงแล้วชิพ ESP32 เริ่มวางจำหน่วยในช่วงตุลาคม และเริ่มมีบอร์ดสำเร็จรูปเจ้าแรกๆของโลกอยู่ที่ไทยในช่วง พฤศจิกายน ดังนั้นแล้วมันจึงอยู่ในช่วงของการพัฒนาในเรื่องของเฟิร์มแวร์ที่ยังไม่นิ่ง(esp8266 ใช้เวลาประมาน 6 เดือน) แต่ในครั้งนี้แตกต่างออกไปคนทั่วทุกมุมโลกรู้จัก ESP และทุกคนกำลังช่วยกันพัฒนากันแบบก้าวกระโดดจนกระทั้งปัจจุบันมีความชื่อกันว่า ESP32 ตอนนี้มีสถานะเป็น 99% ของตัว esp8266 แล้ว จากการคาดการณ์ของผมเองคือไม่เกินเดือนมีนาคมเจ้าชิพตัวนี้จะแพร่หลายกระจายทั่วทุกย่อมหญ้า ไม่ว่าจะเป็นโปรเจคเด็ก ม.ปลาย ปวช หรือเด็กวิศว เด็กคอม อย่างแน่นอน
มุมมองความคิดสร้างสรรค์ใหม่
เนื่องจากว่า ESP32 ได้ใส่ Bluetooth Low Energy เข้ามาด้วยดังนั้นเราอาจจะได้เห็นการสื่อสารกันแบบใหม่ๆ แทนที่จะเป็นการที่เอา ESP32 ทุกตัว ต่อเข้า wifi จุดเดียวขึ้น Internet เราอาจจะเห็นการทำการสื่อสารแบบ mesh ด้วย Bluetooth แล้วส่งไปให้ตัวหลักส่งขึ้น Internet การทำแบบนี้มีข้อดีเรื่องการสื่อสารได้ระยะไกลขึ้นและถ้าวางแผนตำแหน่งดีๆก็จะมีความเสถียรในการรับส่งข้อมูลมากขึ้น
แนะนำ
ส่วนที่ผมปลื้มที่สุดในปรากฎการณ์นี้ก็คือ ในช่วงที่ชิพ ESP32 ปล่อยออกมา ก็มีคนไทยออกแบบบอร์ดสำเร็จรูปแล้วนำมาใช้งานเป็นบอร์ดแรกๆของโลกเลยทีเดียวครับ และในส่วนของบอร์ดที่ผมแนะนำจะเป็นบอร์ด Node32s จากพี่ช้างและพี่แหล่มเลยครับ จุดเด่นคือนอกจากเป็นบอร์ดที่สามารถนำมาพัฒนาได้เลยด้วยความง่ายแล้ว ยังมีระบบการชาจน์แบตตารี่ในตัวครับเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการติดตั้งแบบ stand alone ไม่ต้องเสียบปลั้กไฟครับ ใครที่สนใจรายละเอียดสามารถติดตามได้ที่เว็บนี้ครับ
http://www.ayarafun.com/2016/12/introduction-node32s/
ในส่วนสุดท้าย
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ Anto ก็กำลังพัฒนา lib เพื่อใช้งานกับ Node32s อยู่ครับ ในอีกไม่นานจะมี How to play ออกมาให้ทุกคนได้ลองเล่นหลังปีใหม่แน่นอนครับ
ใครที่ยังไม่รู้จัก Anto อยากรู้อยากเข้ามาพูดคุยสามารถเข้ามาคุยที่กลุ่มเฟสบุคนี้ได้เลยครับ
https://www.facebook.com/groups/anto.io/
สวัสดีปีใหม่ทุกท่านนะครับ ขอให้สุขภาพแข็งแรง และอยู่กับ Anto นานๆนะครับ ฝากติดตามกลุ่มด้วยนะคร้าบบ